รีวิวซอฟต์แวร์ FreeOffice

FreeOffice เป็นโปรแกรมเวอร์ชั่นฟรีที่ตัดมาจาก SoftMaker Office ซึ่งสามารถนำมาใช้งานทดแทน Microsoft Office ได้ ในตัวโปรแกรมมาพร้อมกับชุดโปรแกรมที่คล้ายกับของ 3 คู่หูของ Microsfte ได้แก่ Text Maker (Word) PlanMaker (Excel) และ Presentations (PowerPoint) มาพร้อมกับฟีเจอร์หลายอย่าง แต่บางตัวต้องจ่ายเพื่ออัพเกรดเป็น SofMaker’s Office program ซึ่งเป็นมูลค่า 39.95 เหรียญต่อปี สามารถใช้งานได้บน Windows, Mac, Linux รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ทำงานด้วย Android ในราคา 20 เหรียญ

หน้าตาของโปรแกรม FreeOffice

FreeOffice มีการปรับปรุงหน้าตาให้มีความทันสมัยขึ้น หลังจากที่ผู้เล่นหลายคนมองว่าเมนูของพวกเขาล้าสมัยไปแล้ว วันนี้พวกเขามาพร้อมกับเมนูริบบอนสมัยใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น พร้อมกับตัวเลือกให้สลับไปเมนูหน้าตาแบบคลาสสิก ในแบบริบบินจะมีคำสั่งฟีเจอร์ที่เหมือนเดิม แต่มีการจัดว่างให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สามารถกดลูกศรสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่อยู่มุมขวาล่างของกรอบคำสั่งต่างๆ จะสามารถเข้าสู่ฟีเจอร์ขั้นสูงได้ รวมถึงเข้าไปตั้งค่าตามความต้องการของผู้ใช้ เช่นการกดที่ปุ่มสามเหลี่ยมในส่วนของ Paragraph จะเป็นการเปิดหน้าต่าง Paragraph Formatting Setting

นอกจากนี้ในส่วนของริบบินยังมี Quick Access ที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคำสั่งที่สำคัญได้ตลอดเวลา เช่น การสร้างไฟล์ใหม่ เปิดไฟล์ บันทึกไฟล์ และปุ่มเลิกทำ-ทำซ้ำ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งให้เมนูเป็นให้ตรงกับลักษณะการใช้งานได้ ว่าคำสั่งไหนใช้งานบ่อยมากสามารถนำมาวางไว้ด้านบนสุด หรือคำสั่งไหนที่ไม่จำเป็นก็สามารถนำออกไปเพื่อป้องกันการกดผิด ที่สำคัญโปรแกรม FreeOffice ยังรอบรับการทำงานในรูปแบบของทัชสกีน ซึ่งเมื่อผู้ใช้เปิดทำงานในโหมดทีชสกีน ไอคอนจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้กดได้สะดวกขึ้น โดยสามารถใช้งานได้ในโหมดริบบิน และโหมดคลาสสิก

โปรแกรมรองรับการทำงานร่วมกับสกุลไฟล์มาตรฐาน เช่น DOCX, XLSX หรือ PPTX หมายความว่าเราสามารถทำงานร่วมกับไฟล์ของ Microsoft Office ได้โดยไม่จำเป็นต้องแปลงไฟล์ สามารถเปิดไฟล์ด้วยการกดที่ไฟล์โดยตรง หรือลากเข้ามาในหน้าต่างโปรแกรมได้เลย สำหรับโปรแกรม PlanMaker ที่เป็นโปรแกรมทดแทน Excel จะมีฟีเจอร์ที่คล้ายกันมาให้ใช้แทบจะเหมือนกันหมด ส่วนโปรแกรม Presentation ก็มีระบบ Master Page ช่วยให้สร้างสไลด์แบบง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่คลิกเท่านั้น

ประสบการณ์หลังได้งาน FreeOffice

ก่อนเราได้โหลดโปรแกรมมาใช้งาน เราจะต้องเข้าไปในในเว็บ ใส่ชื่อจริง นามสกุล ประเทศ รวมไปถึงอีเมล์ของเรา โดยทางบริษัทจะส่งข้อมูลโค้ดสำหรับเปิดใช้งานโปรแกรมมาให้ แม้จะรู้ในภายหลังว่าในความเป็นจริงแล้ว เราไม่ต้องใส่เจ้าตัวโค้ดนี้ก็สามารถใช้งานได้ โดยรวมแล้วโปรแกรม FreeOffice ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับ Microsoft Office สามารถทำงานร่วมกันได้ตั้งแต่เวอร์ชัน 1997 เป็นต้นมา แถมยังรองรับไฟล์รูปแบบ OpenDocument ที่ใช้โดย LibreOffice กับ Apache OpenOffice อีกด้วย

ไม่เพียงแต่โปรแกรมนี่จะจัดการเอกสารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เรายังสามารถใช้เจ้า FreeOffice สร้างไฟล์ PDF ได้อีกด้วย น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ขั้นสูงส่วนใหญ่จะใช้งานได้ในเฉพาะ Premium Version เท่านั้น มันไม่มีเครื่องมือที่ใช้สำหรับสูตรทางคณิตศาสตร์ หรือไดอะแกรม สามารถทำงานแก้ไขข้อความได้ทั่วไป แต่สำหรับของฟรีได้แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ลองมาสรุปข้อดีของโปรแกรมนี้กันดูดีกว่า

1.รองรับการทำงานแบบทัชสกีน สามารถทำงานได้บน Linux, Windows, Mac และ Android

2.สามารถทำงานร่วมกับไฟล์เอกสารของ Office เกือบทุกรูปแบบ

3.Presentations Master Page ช่วยให้งานนำเสนอเป็นเรื่องที่ง่ายดาย

สำหรับผู้ที่มองหาโปรแกรมจัดการเอกสารฟรีไว้ติดเครื่อง แนะนำให้ลองโหลดโปรแกรม FreeOffice 2018 ไปใช้งานกันดู สามารถเข้าไปโหลดได้ที่เว็บ https://www.freeoffice.com รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7, Windows 8 และ Windows 10 (32/64-Bits) สำหรับ macOS รองรับรุ่น 10.10 หรือสูงกว่า